วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

เกาะสีชัง


เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี  เป็นที่จอดเรือสินค้านานาชาติ  และเป็นเกาะน่าท่องเที่ยวในบรรยากาศท้องถิ่น  ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้  ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ  และเป็นพื้นที่ตั้งท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง)  รวมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปสู่จุดท่องเที่ยวต่างๆ บนเกาะ



จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะสีชัง  ได้แก่

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาคยาศิระ  ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ  ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน  ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย  ภายในมีศาลเจ้าพ่อเฮ่งเจีย  ศาลเจ้าแม่กวนอิม  วิหารพระสังกัจจายน์  ฯลฯ  ช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีผู้คนมาบวงสรวงกันอย่างเนืองแน่น  เชื่อกันว่าถ้าใครได้มาไหว้ครบ 3 ครั้งใน 3 ปี จะร่ำรวย  จากบริเวณศาลสามารถมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้อย่างชัดเจน

รอยพระพุทธบาท  อยู่บนยอดเขาเหนือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่  จำลองขึ้นจากรอยพระพุทธบาทที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช  เมื่อปี พ.ศ. 500  มีความยาวศอกเศษ  ทำจากหินชนวน  สมเด็จฯ  กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงนำมาจากวัดพุทธคยา  ประเทศอินเดีย  แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนยอดเขา  นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุให้สักการบูชาอีกด้วย  จุดชมวิวยอดเขาพระพุทธบาทสามารถชมอาทิตย์อัสดงได้งดงามมาก  เพราะจะมองเห็นตัวเกาะสีชังทั้งเกาะ  รวมถึงเกาะขามใหญ่  และทัศนียภาพทะเลโดยรอบ

ช่องเขาขาด และหาดหินกลม  ตั้งอยู่ด้านหลังเกาะ  ชาวบ้านจึงเรียกกันติดป่าว่า  “หลังเกาะ” หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา  ในบริเวณนี้มีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์  ซึ่งมองเห็นพระอาทิตย์อัสดงได้อย่างงดงาม  นอกจากนี้ยังมีหาดหินกลมที่เต็มไปด้วยก้อนหินขนาดต่างๆมากมาย ในอดีตหาดหินกลมเคยเป็นสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5

ศิลาจารึก  ตั้งอยู่ข้างสนามฟุตบอลโรงเรียนเกาะสีชัง  เป็นแผ่นหินขนาดใหญ่จารึกเรื่องการสร้างพระราชฐานบนเกาะสีชัง

เก๋งจีน  ลักษณะเป็นศาลาโบราณ  มีรูปมังกรและนกยูงประดับอยู่ตามยอด  เคยเป็นที่ประทับชั่วคราวของรัชกาลที่ 5 ครั้งพระองค์เสด็จประพาส  ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่  จนกลับคืนความงามดังเดิม

พระจุฑาธุชราชฐาน  อยู่ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ  สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับฤดูร้อน  ภายในบริเวณมีภูมิทัศน์สวยงาม  ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง  ถัดขึ้นไปเป็นตึกวัฒนา  พระตำหนักทรงปั้นหยา  เรือนไม้ลวดลายขนมปังขิง  ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม  ตึกเขียว (เรือนมรกตสุทธิ์)  ตึกอภิรมย์  และวัดอัษฎางค์นิมิตบนยอดเขา  ซึ่งก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตก  ส่วนพระราชวังทำด้วยไม้สักได้รื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆที่กรุงเทพฯ

หาดเขาถ้ำพัง  อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ  เป็นชายหาดกว้าง  สะอาด  และสวยงาม  เม็ดทรายละเอียด  น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ

วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร  เป็นพระอารามหลวงซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2435  เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จฯ  เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก  ในวาระที่ประสูติ ณ เกาะสีชัง  วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาคยาศิระ  มีโบสถ์  หอระฆัง  พระพุทธบาทจำลอง  และพระประธานปางมารวิชัยที่งดงาม
ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอำเภอศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร
การเดินทาง : เดินทางโดยเรือเมล์จากศรีราชา  ใช้เวลาประมาณ 45 นาที  โดยขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือจรินทร์  ถนนเจิมจอมพลในอำเภอศรีราชา  มีเรือโดยสารไปเกาะสีชังทุกวัน  ระหว่างเวลา 07.00-20.00 น.  ออกทุกๆชั่วโมง  อัตราค่าโดยสาร  คนละ 20 บาท  และจากเกาะสีชังกลับเข้าฝั่งศรีราชา  มีเรือวิ่งตั้งแต่ 06.00-18.00 น. มีเรือออกทุกๆชั่วโมง  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เรือสีชังพาเลซ  โทร. 0-3821-6276-82  และเรือแสงประทีปบริการ  โทร. 0-3831-3687
เวลาทำการ : สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น